ชื่อทางการค้า อาร์เดน
ราคา 42 บาท
ส่วนประกอบ
ในแผงยา 28 เม็ด ประกอบด้วยยาเม็ดสีขาว 21 เม็ด แต่ละเม็ดประกอบด้วย 015 มก. เลโวนอร์เจสตรีล และ 0.03 มก. เอทินิลเอสตราไดออล และยาเม็ดแป้งสีเหลือง 7 เม็ด
ข้อบ่งใช้
ใช้เป็นยาคุมกำเนิด
วิธีใช้
การเริ่มต้นรับประทานยาแผงแรก ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนและให้รับประทานยาวันละ 1 เม็ด โดยรับประทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน (ท่านอาจเริ่มรับประทานยาในวันที่ 2-5 ของรอบเดือนก็ได้ แต่กรณีที่ท่านต้องแน่ใจว่าท่านได้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมด้วย) การรับประทานยาเม็ดแรกให้เริ่มจากเม็ดสีขาวซึ่งมีลูกศรขนาดใหญ่กำกับอยู่ และรับประทานแผงต่อไปโดยไม่ต้องหยุดยา การรับประทานยาให้รับประทานในเวลาเดียวกันทุกวัน (เช่น หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน)
กรณีลืมรับประทานยาตามวันเวลา
ถ้าลืมรับประทานยาเกิน 12 ชั่วโมง ต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นควบคู่ไปด้วย มิฉะนั้นอาจตั้งครรภ์ได้
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคตับ
- ไม่ควรใช้ในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน เช่น มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดอักเสบ โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง
- ระมัดระวังการใช้ในสตรีที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะสตรีทีมีอายุมากกว่า 35 ปี ควารปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
- หากใช้ยานี้แลวมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
ผู้จัดจำหน่าย
บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด นนทบุรี ประเทศไทย
ชื่อทางการค้า มาร์การเร็ต เอ็กซ์โอ
ราคา 40 บาท
ส่วนประกอบ
เป็นยาคุมกำเนิดชุดละ 28 เม็ด ซึ่งใช้รับประทานติดต่อกันโดยไม่ต้องหยุดระหว่างชุด แผงหนึ่งมียาเม็ดสีขาว ซึ่งมีฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ 21 เม็ด และเม็ดสีน้ำตาลซึ่งเป็นยาบำรุงโลหิต
วิธีใช้
- เมื่อเริ่มต้นใช้ยานี้ ให้รับประทานยาเม็ดสีขาวเม็ดแรกในวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน ไม่ว่าประจำเดือนจะยังมีอยู่หรือไม่ในวันนั้น (วันแรกของการมีประจำเดือนให้นับเป็นวันที่ 1) ต่อไปรับประทานวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน ในเวลาเดียวกัน เวลาทีเหมาะที่สุดก็คือ รับประทานตอนเย็นหรือก่อนนอน ให้รับประทานยาเม็ดสีขาวติดต่อกันไปจนหมด 21 เม็ด แล้วจึงรับประทานยาเม็ดสีน้ำตาลทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดติดต่อกันอีก 7 วัน
- ถ้าลืมรับประทานยาเม็ดสีขาวไปหนึ่งเม็ด ให้รับประทานเม็ดสีขาว 2 เม็ดในวันรุ่งขึ้น หรือรีบรับประทานทันทีที่นึกได้และรับประทานอย่างปกติตามคำแนะนำในวันต่อไป
- เมื่อรับประทานยาเม็ดสีขาวทั้ง 21 เม็ดแล้ว โดยปกติจะมีประจำเดือนในวันที่ 2-3 วันต่อมา คือในช่วงที่รับประทานยาเม็ดสีน้ำตาล
- เมื่อรับประทานยาเม็ดสุดท้ายของชุดแรกหมด ให้รับประทานยาชุดต่อไปโดยไม่ต้องหยุดยา
หมายเหตุ
- ถ้ามีเลือกะปริดกะปรอยหรือมาก ระหว่างรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์
- ประจำเดือนอาจจะขาดได้ แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ให้รับประทานยาต่อไปตามคำแนะนำนี้ หากประจำเดือนขาดเกิน 2 เดือน ควรปรึกษาแพทย์
- อาการคลื่นไส้ จะมีเป็นครั้งคราวติดต่อกันหลายวัน ในระยะเริ่มกินยาเดือนแรก หรือ เดือนที่สอง
คำเตือน
- หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยด้วยโรค หลอดเลือดอุดตัน โรคตับ
ผลิตโดย
ห.จ.ก. ไบร์วู๊ด ฟาร์มาซูติคอล
313 ถนนสุขสวัสดิ์ สุขสวัสดิ์ซอย7 กรุงเทพ โทร. 02-4686772 ,02-4601145
ราคา 350-380 บาท
ส่วนประกอบในเม็ดยา
- ตัวยาที่มีฤทธิ์ คือ
- ยาเม็ดสีฟ้า ประกอบด้วย ดีโซเจสตริล 0.025 มก. และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.040 มก.
- ยาเม็ดสีขาว ประกอบด้วย ดีโซเจสตริล 0.125 มก. และ เอธินิลสตราดิออล 0.030 มก.
ส่วนประกอบอื่น
ยาเม็ดสีฟ้า ประกอบด้วย sillica colloidal anhydrous, alpha-tocopherol, indigo carmine (E132), lactose monohydrate, potato starch povidone, stearic acid.
ยาเม็ดสีขาว ประกอบด้วย silica colloidal anhydrous, alpha-tocopherol, lactose monohydrate, potato starch, povidone, stearic acid.
1. ออยเลสคืออะไร
1.1 ส่วนประกอบและประเภทของยาเม็ดคุมกำเนิด
ออยเลซ เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน และสามารถใช้ในการรักษาโรคสิวที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลางได้ ในออยเลซแต่ละเม็ดประกอบด้วย ฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิดในปริมาณต่ำ คือ ดีโซเจสตริล (โปรเจสโตเจนชนิดหนึ่ง) และ เอธินิลเอสตราดิออล (เอสโตรเจนชนิดหนึ่ง) เนื่องจากในยาแต่ละเม็ดมีปริมาณฮอร์โมนต่ำ ออยเลซ จึงจัดเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานประเภทฮอร์โมนต่ำ และส่วนประกอบของฮอร์โมน 2 ชนิดในยาเม็ดสีฟ้า มีสัดส่วนที่แตกต่างกับในยาเม็ดสีขาว ออยเลซจึงจัดเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทนประเภท Combiphasic
1.2 ทำไมจึงใช้ออยเลซ
- เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อใช้ยาอย่างถูกวิธี (ไม่ลืมรับประทานยา) มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำมาก
- เพื่อรักษาสิดวที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง
1.3 บรรจุภันฑ์ และเม็ดยา
ออยเลซ บรรจุอยู่ในแผง ๆ ละ 22 เม็ด (ประกอบด้วยเม็ดยาสีฟ้า 7 เม็ด และเม็ดยาสีขาว 15 เม็ด) บรรจุในกล่องละ 1 แผง ยาเม็ดมีลักษณะกลม นูนทั้ง 2 ด้าน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม. บนเม็ดยาด้านหนึ่งมีเครื่องหมาย TR เหนือเลข 8 (เม็ดสีขาว) หรือ TR เหนือเลข 9 (เม็ดสีฟ้า) และ Organon อีกด้านหนึ่ง
2. เมื่อไรท่านจึงไม่ควรใช้ออยเลซ
ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน หากท่านมีความผิดปกติอย่างไดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ หากอาการใดต่อไปนี้เกิดกับท่าน กรุณาบอกแพทย์ก่อนที่ท่านจะเริ่มใช้ยาออยเลซ ในกรณีที่ใช้ยาออยเลซเพื่อรักษาสิว ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นสำคัญด้วย แพทย์อาจแนะนำให้ท่านรักษาสิวโดยวิธีอื่น หรือใช้วิธีคุมกำเนิดที่แตกต่างออกไป (วิธีที่ไม่ใช้ฮอร์โมน)
- หากท่านมีหรือเคยมีความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการเกิดลิ่มเลือด (Thrombosisi) ลิ่มเลือดคือการเกิดก้อนเลือดเล็กในกระแสเลือด ลิ่มเลือดนี้อาจเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขา (Deep vein thrombosis) ที่ปอด (Pulmonary embolism) ที่หัวใจ (ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด) หรือที่บริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย (กรุณาอ่านหัวข้อ "ยาเม็ดคุมกำเนิดกับการเกิดลิ่มเลือด")
- หากท่านมีหรือเคยมีความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง Stroke (ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลอดสมองหรือหลอดเลือดสมองแตก)
- หากท่านมีความผิดปกติซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคกล้ามเน้อหัวใจขาดเลือด (เช่น angina pectoris หรือ เจ็บหน้าอก) หรือ Stroke ( เช่น การเกิดอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว ที่เกิดเล็กน้อยและเกิดชั่วคราว)
- หากท่านมีประวัติปวดศรีษะไมเกรนที่มีอาการต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น ความผิดปกติในการมองเห็นหรือ ความผิดปกติในการพูด ร่างกายบางส่วนอ่อนแรงหรือไม่มีความรู้สึก
- หากท่านเป็นโรคเบาหวานและมีหลอดเลือดบางส่วนถูกทำลาย
- หากท่านเป็นหรือเคยเป็นตับอ่อนอักเสบ สัมพันธ์กับการมีไขมันในเลือดสูง
- หากท่านเคยเป็นโรคดีซ่าน (ผิวหนังมีสีเหลือง) หรือเป็นโรคตับอักเสบอย่างรุนแรง
- หากท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่รู้สาเหตุ
- หากท่านตั้งครรภ์หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์
- หากท่านแพ้ต่อเอธินิลเอสตราดิออล หรือดีโซเจซตริล หรือส่วนประกอบอื่นในยาเม็ดออยเลซ
ถ้าอาการดังกล่าวข้างต้นประการใดเกิดขึ้นกับท่านเป็นครั้งแรกในระหว่างที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด หยุดใช้ยาทันทีและปรึกษาแพทย์ ในขณะเดียวกันให้ใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น (ชนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน)
3. ข้อควรทราบก่อนรับประทานยา ออยเลซ
3.1 ข้อมูลทั่วไป
แม้ว่าออยเลซสามารถใช้ในการรักษาสิวได้ อย่างไรก็ดียาออยเลซ มีคุณสมบัติต่าง ๆ เหมือนกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานอื่น ๆ ทั่วไป ข้อมูลที่จะกล่าวต่อไปในหัวข้อนี้ เป็นข้อมูลทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ซึ่งรวมถึงออยเลซไม่ว่าจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุมกำเนิดหรือรักษาสิว
ในเอกสารฉบับนีี้ได้อธิบายภาวะต่าง ๆ ที่ท่านควรหยุดรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด หรือสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดลดลง ในสถานการณ์เหล่านั้นท่านไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ หรือควรใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีอื่นเพิ่มเติม (ชนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน) เช่นใช้ถุงยางอนามัย หรือใช้สิ่งกีดขวางการปฏิสนธิชนิดอื่น ไม่ควรใช้วิธีนับระยะปลอดภัย หรือวิธีวัดอุณหภูมิร่างกาย เพราะวิธีเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้ เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิดที่รับประทานอยู่มีผลรบกวนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกาย และเมือกที่ปากมดลูก ในระหว่างรอบประจำเดือน
ในระหว่างที่ยาออยเลซรักษาสิว ท่านจะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก หากรับประทานถูกวิธี
เช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานอื่น ๆ คือ ออยเลซ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส เอช ไอ วี (โรคเอดส์) หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
3.2 ก่อนเริ่มใช้ออยเลซ
หากท่านจะเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน ในขณะท่านท่านอยู่ในภาวะใดภาวะหนึ่งต่อไปนี้ ท่านอาจต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ แพทย์ของท่านจะอธิบายเหตุผลให้ท่านทราบได้ ดังนั้นท่านควรแจ้งให้แพทย์ของท่านทราบว่าท่านอยู่ในภาวะใดก่อนเริ่มรับประทานออยเลซ
- ท่านสูบบุหรี่
- ท่านเป็นโรคเบาหวาน
- ท่านมีน้ำหนักตัวเกินมาตราฐาน
- ท่านมีโรคความดันโลหิตสูง
- ท่านมีความผิดปกติของลิ้นหัวใจ หรือมีความผิดปกติของจังหวะการเต้นหัวใจ
- ท่านมีการอักเสบของหลอดเลือดดำ (superficial phlebitis)
- ท่านมีสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวมีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด หรือเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือเป็น Stroke
- ท่านเป็นโรคปวดศรีษะไมเกรน
- ท่านเป็นลมชัก
- ท่าหรือสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวมี หรือเคยมี รดับ Cholesterol หรือ Triglyceride ในเลือดสูง
- ท่านมีสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม
- ท่านเป็นโรคตับ หรือโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
- ท่านเป็นโรค Crohn' Disease หรือ Ulcerative Colitis (โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง)
- ท่านเป็นโรค Systemic Lupus Erythematosus (SLE โรคที่เกิดกับผิวหนังทั่วร่างกาย)
- ท่านเป็นโรค Haemolytic Uraemic Syndrom (HUS, ความผิดปกติของกระบวนการแข็งตัวของเลือดเป็นผลให้ไตวาย)
- ท่านมีอาการที่เกิดเป็นครั้งแรกหรืออาการเลวลงในระว่างตั้งครรภ์ หรือ จากการใช้ฮอร์โมนเพศ เช่น การสูญเสียการได้ยิน โรคของการเผาผลาญ Prophyria โรคผิวหนัง Herpes gestationis โรคทางระบบประสาท Syndenham's chorea
- ท่านเป็นหรือเคยเป็นฝ้า (เป็นจ้ำสีเหลืองน้ำตาลบนผิวหนังโดยเฉพาะที่หน้า) หากเกิดเช่นนี้พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด หรือรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไป
หากภาวะใดดังกล่าวข้างบนเกิดกับท่านเป็นครั้งแรก เป็นซ้ำอีก หรืออาการเลวลงในระหว่างใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ท่านควรไปพบแพทย์ของท่าน