วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิด





ชื่อทางการค้า อาร์เดน


ราคา 42 บาท


ส่วนประกอบ
ในแผงยา 28 เม็ด ประกอบด้วยยาเม็ดสีขาว 21 เม็ด แต่ละเม็ดประกอบด้วย 015 มก. เลโวนอร์เจสตรีล และ 0.03 มก. เอทินิลเอสตราไดออล และยาเม็ดแป้งสีเหลือง 7 เม็ด






ข้อบ่งใช้




ใช้เป็นยาคุมกำเนิด




วิธีใช้




การเริ่มต้นรับประทานยาแผงแรก ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนและให้รับประทานยาวันละ 1 เม็ด โดยรับประทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน (ท่านอาจเริ่มรับประทานยาในวันที่ 2-5 ของรอบเดือนก็ได้ แต่กรณีที่ท่านต้องแน่ใจว่าท่านได้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมด้วย) การรับประทานยาเม็ดแรกให้เริ่มจากเม็ดสีขาวซึ่งมีลูกศรขนาดใหญ่กำกับอยู่ และรับประทานแผงต่อไปโดยไม่ต้องหยุดยา การรับประทานยาให้รับประทานในเวลาเดียวกันทุกวัน (เช่น หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน)





กรณีลืมรับประทานยาตามวันเวลา
ถ้าลืมรับประทานยาเกิน 12 ชั่วโมง ต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นควบคู่ไปด้วย มิฉะนั้นอาจตั้งครรภ์ได้

คำเตือน






  1. ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคตับ



  2. ไม่ควรใช้ในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน เช่น มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดอักเสบ โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง



  3. ระมัดระวังการใช้ในสตรีที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะสตรีทีมีอายุมากกว่า 35 ปี ควารปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา



  4. หากใช้ยานี้แลวมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์



ผู้จัดจำหน่าย
บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด นนทบุรี ประเทศไทย






ชื่อทางการค้า มาร์การเร็ต เอ็กซ์โอ



ราคา 40 บาท







ส่วนประกอบ




เป็นยาคุมกำเนิดชุดละ 28 เม็ด ซึ่งใช้รับประทานติดต่อกันโดยไม่ต้องหยุดระหว่างชุด แผงหนึ่งมียาเม็ดสีขาว ซึ่งมีฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ 21 เม็ด และเม็ดสีน้ำตาลซึ่งเป็นยาบำรุงโลหิต







วิธีใช้







  1. เมื่อเริ่มต้นใช้ยานี้ ให้รับประทานยาเม็ดสีขาวเม็ดแรกในวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน ไม่ว่าประจำเดือนจะยังมีอยู่หรือไม่ในวันนั้น (วันแรกของการมีประจำเดือนให้นับเป็นวันที่ 1) ต่อไปรับประทานวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน ในเวลาเดียวกัน เวลาทีเหมาะที่สุดก็คือ รับประทานตอนเย็นหรือก่อนนอน ให้รับประทานยาเม็ดสีขาวติดต่อกันไปจนหมด 21 เม็ด แล้วจึงรับประทานยาเม็ดสีน้ำตาลทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดติดต่อกันอีก 7 วัน



  2. ถ้าลืมรับประทานยาเม็ดสีขาวไปหนึ่งเม็ด ให้รับประทานเม็ดสีขาว 2 เม็ดในวันรุ่งขึ้น หรือรีบรับประทานทันทีที่นึกได้และรับประทานอย่างปกติตามคำแนะนำในวันต่อไป



  3. เมื่อรับประทานยาเม็ดสีขาวทั้ง 21 เม็ดแล้ว โดยปกติจะมีประจำเดือนในวันที่ 2-3 วันต่อมา คือในช่วงที่รับประทานยาเม็ดสีน้ำตาล



  4. เมื่อรับประทานยาเม็ดสุดท้ายของชุดแรกหมด ให้รับประทานยาชุดต่อไปโดยไม่ต้องหยุดยา






หมายเหตุ







  1. ถ้ามีเลือกะปริดกะปรอยหรือมาก ระหว่างรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์



  2. ประจำเดือนอาจจะขาดได้ แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ให้รับประทานยาต่อไปตามคำแนะนำนี้ หากประจำเดือนขาดเกิน 2 เดือน ควรปรึกษาแพทย์



  3. อาการคลื่นไส้ จะมีเป็นครั้งคราวติดต่อกันหลายวัน ในระยะเริ่มกินยาเดือนแรก หรือ เดือนที่สอง






คำเตือน







  1. หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์



  2. ห้ามใช้กับผู้ป่วยด้วยโรค หลอดเลือดอุดตัน โรคตับ






ผลิตโดย




ห.จ.ก. ไบร์วู๊ด ฟาร์มาซูติคอล




313 ถนนสุขสวัสดิ์ สุขสวัสดิ์ซอย7 กรุงเทพ โทร. 02-4686772 ,02-4601145














ชื่อทางการค้า ออยเลซ (Oilezz)



ราคา 350-380 บาท



ส่วนประกอบในเม็ดยา





  • ตัวยาที่มีฤทธิ์ คือ


  • ยาเม็ดสีฟ้า ประกอบด้วย ดีโซเจสตริล 0.025 มก. และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.040 มก.


  • ยาเม็ดสีขาว ประกอบด้วย ดีโซเจสตริล 0.125 มก. และ เอธินิลสตราดิออล 0.030 มก.


ส่วนประกอบอื่น



ยาเม็ดสีฟ้า ประกอบด้วย sillica colloidal anhydrous, alpha-tocopherol, indigo carmine (E132), lactose monohydrate, potato starch povidone, stearic acid.



ยาเม็ดสีขาว ประกอบด้วย silica colloidal anhydrous, alpha-tocopherol, lactose monohydrate, potato starch, povidone, stearic acid.



1. ออยเลสคืออะไร



1.1 ส่วนประกอบและประเภทของยาเม็ดคุมกำเนิด



ออยเลซ เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน และสามารถใช้ในการรักษาโรคสิวที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลางได้ ในออยเลซแต่ละเม็ดประกอบด้วย ฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิดในปริมาณต่ำ คือ ดีโซเจสตริล (โปรเจสโตเจนชนิดหนึ่ง) และ เอธินิลเอสตราดิออล (เอสโตรเจนชนิดหนึ่ง) เนื่องจากในยาแต่ละเม็ดมีปริมาณฮอร์โมนต่ำ ออยเลซ จึงจัดเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานประเภทฮอร์โมนต่ำ และส่วนประกอบของฮอร์โมน 2 ชนิดในยาเม็ดสีฟ้า มีสัดส่วนที่แตกต่างกับในยาเม็ดสีขาว ออยเลซจึงจัดเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทนประเภท Combiphasic


1.2 ทำไมจึงใช้ออยเลซ



  • เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อใช้ยาอย่างถูกวิธี (ไม่ลืมรับประทานยา) มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำมาก

  • เพื่อรักษาสิดวที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง

1.3 บรรจุภันฑ์ และเม็ดยา


ออยเลซ บรรจุอยู่ในแผง ๆ ละ 22 เม็ด (ประกอบด้วยเม็ดยาสีฟ้า 7 เม็ด และเม็ดยาสีขาว 15 เม็ด) บรรจุในกล่องละ 1 แผง ยาเม็ดมีลักษณะกลม นูนทั้ง 2 ด้าน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม. บนเม็ดยาด้านหนึ่งมีเครื่องหมาย TR เหนือเลข 8 (เม็ดสีขาว) หรือ TR เหนือเลข 9 (เม็ดสีฟ้า) และ Organon อีกด้านหนึ่ง


2. เมื่อไรท่านจึงไม่ควรใช้ออยเลซ


ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน หากท่านมีความผิดปกติอย่างไดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ หากอาการใดต่อไปนี้เกิดกับท่าน กรุณาบอกแพทย์ก่อนที่ท่านจะเริ่มใช้ยาออยเลซ ในกรณีที่ใช้ยาออยเลซเพื่อรักษาสิว ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นสำคัญด้วย แพทย์อาจแนะนำให้ท่านรักษาสิวโดยวิธีอื่น หรือใช้วิธีคุมกำเนิดที่แตกต่างออกไป (วิธีที่ไม่ใช้ฮอร์โมน)



  • หากท่านมีหรือเคยมีความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการเกิดลิ่มเลือด (Thrombosisi) ลิ่มเลือดคือการเกิดก้อนเลือดเล็กในกระแสเลือด ลิ่มเลือดนี้อาจเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขา (Deep vein thrombosis) ที่ปอด (Pulmonary embolism) ที่หัวใจ (ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด) หรือที่บริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย (กรุณาอ่านหัวข้อ "ยาเม็ดคุมกำเนิดกับการเกิดลิ่มเลือด")

  • หากท่านมีหรือเคยมีความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง Stroke (ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลอดสมองหรือหลอดเลือดสมองแตก)

  • หากท่านมีความผิดปกติซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคกล้ามเน้อหัวใจขาดเลือด (เช่น angina pectoris หรือ เจ็บหน้าอก) หรือ Stroke ( เช่น การเกิดอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว ที่เกิดเล็กน้อยและเกิดชั่วคราว)

  • หากท่านมีประวัติปวดศรีษะไมเกรนที่มีอาการต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น ความผิดปกติในการมองเห็นหรือ ความผิดปกติในการพูด ร่างกายบางส่วนอ่อนแรงหรือไม่มีความรู้สึก

  • หากท่านเป็นโรคเบาหวานและมีหลอดเลือดบางส่วนถูกทำลาย

  • หากท่านเป็นหรือเคยเป็นตับอ่อนอักเสบ สัมพันธ์กับการมีไขมันในเลือดสูง

  • หากท่านเคยเป็นโรคดีซ่าน (ผิวหนังมีสีเหลือง) หรือเป็นโรคตับอักเสบอย่างรุนแรง

  • หากท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่รู้สาเหตุ

  • หากท่านตั้งครรภ์หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์

  • หากท่านแพ้ต่อเอธินิลเอสตราดิออล หรือดีโซเจซตริล หรือส่วนประกอบอื่นในยาเม็ดออยเลซ

ถ้าอาการดังกล่าวข้างต้นประการใดเกิดขึ้นกับท่านเป็นครั้งแรกในระหว่างที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด หยุดใช้ยาทันทีและปรึกษาแพทย์ ในขณะเดียวกันให้ใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น (ชนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน)

3. ข้อควรทราบก่อนรับประทานยา ออยเลซ

3.1 ข้อมูลทั่วไป

แม้ว่าออยเลซสามารถใช้ในการรักษาสิวได้ อย่างไรก็ดียาออยเลซ มีคุณสมบัติต่าง ๆ เหมือนกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานอื่น ๆ ทั่วไป ข้อมูลที่จะกล่าวต่อไปในหัวข้อนี้ เป็นข้อมูลทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ซึ่งรวมถึงออยเลซไม่ว่าจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุมกำเนิดหรือรักษาสิว

ในเอกสารฉบับนีี้ได้อธิบายภาวะต่าง ๆ ที่ท่านควรหยุดรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด หรือสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดลดลง ในสถานการณ์เหล่านั้นท่านไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ หรือควรใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีอื่นเพิ่มเติม (ชนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน) เช่นใช้ถุงยางอนามัย หรือใช้สิ่งกีดขวางการปฏิสนธิชนิดอื่น ไม่ควรใช้วิธีนับระยะปลอดภัย หรือวิธีวัดอุณหภูมิร่างกาย เพราะวิธีเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้ เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิดที่รับประทานอยู่มีผลรบกวนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกาย และเมือกที่ปากมดลูก ในระหว่างรอบประจำเดือน

ในระหว่างที่ยาออยเลซรักษาสิว ท่านจะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก หากรับประทานถูกวิธี

เช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานอื่น ๆ คือ ออยเลซ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส เอช ไอ วี (โรคเอดส์) หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

3.2 ก่อนเริ่มใช้ออยเลซ

หากท่านจะเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน ในขณะท่านท่านอยู่ในภาวะใดภาวะหนึ่งต่อไปนี้ ท่านอาจต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ แพทย์ของท่านจะอธิบายเหตุผลให้ท่านทราบได้ ดังนั้นท่านควรแจ้งให้แพทย์ของท่านทราบว่าท่านอยู่ในภาวะใดก่อนเริ่มรับประทานออยเลซ

  • ท่านสูบบุหรี่
  • ท่านเป็นโรคเบาหวาน
  • ท่านมีน้ำหนักตัวเกินมาตราฐาน
  • ท่านมีโรคความดันโลหิตสูง
  • ท่านมีความผิดปกติของลิ้นหัวใจ หรือมีความผิดปกติของจังหวะการเต้นหัวใจ
  • ท่านมีการอักเสบของหลอดเลือดดำ (superficial phlebitis)
  • ท่านมีสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวมีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด หรือเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือเป็น Stroke
  • ท่านเป็นโรคปวดศรีษะไมเกรน
  • ท่านเป็นลมชัก
  • ท่าหรือสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวมี หรือเคยมี รดับ Cholesterol หรือ Triglyceride ในเลือดสูง
  • ท่านมีสมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม
  • ท่านเป็นโรคตับ หรือโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
  • ท่านเป็นโรค Crohn' Disease หรือ Ulcerative Colitis (โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง)
  • ท่านเป็นโรค Systemic Lupus Erythematosus (SLE โรคที่เกิดกับผิวหนังทั่วร่างกาย)
  • ท่านเป็นโรค Haemolytic Uraemic Syndrom (HUS, ความผิดปกติของกระบวนการแข็งตัวของเลือดเป็นผลให้ไตวาย)
  • ท่านมีอาการที่เกิดเป็นครั้งแรกหรืออาการเลวลงในระว่างตั้งครรภ์ หรือ จากการใช้ฮอร์โมนเพศ เช่น การสูญเสียการได้ยิน โรคของการเผาผลาญ Prophyria โรคผิวหนัง Herpes gestationis โรคทางระบบประสาท Syndenham's chorea
  • ท่านเป็นหรือเคยเป็นฝ้า (เป็นจ้ำสีเหลืองน้ำตาลบนผิวหนังโดยเฉพาะที่หน้า) หากเกิดเช่นนี้พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด หรือรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไป

หากภาวะใดดังกล่าวข้างบนเกิดกับท่านเป็นครั้งแรก เป็นซ้ำอีก หรืออาการเลวลงในระหว่างใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ท่านควรไปพบแพทย์ของท่าน

4 ความคิดเห็น:

  1. คืออยากถามว่าพอดีทานยาคุมมานานแล้วแต่มีเดือนนี้ต้องเริ่มทานวันจันแต่ลืมจะไปทานวันพฤหัสได้มัย

    ตอบลบ
  2. กินแร้วนมโตมัยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรากินแล้วรุ้สึกคันๆเจ้บที่นมอะ ถามป้าที่เป้นหมอนางบอกนมเริ่มขยาย

      ลบ
  3. ถ้าประจำเดือนยังไม่มากินได้มั้ย
    และถ้ามีเพศสัมพันธ์หลังประจำดือนแล้วควรกินยาคุมไหม

    ตอบลบ