วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การใช้ถุงยางอนามัย

นับเป็นวิธีที่ถือว่าปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ด้วย แต่ฝ่ายชายจำนวนไม่น้อยใส่ถุงยางอนามัยไม่ถูกต้อง ที่ถูกก็คือต้องบีบปลายถุงยางไล่อากาศก่อน จากนั้นจึงสวมแล้วรูดให้สุดโคน เมื่อผู้ชายหลั่งน้ำอสุจิเสร็จแล้วต้องรีบดึงถุงยางออกนะ อย่าให้น้ำอสุจิเลอะเทอะออกมาภายนอก ห้ามใช้ซ้ำเด็ดขาดนะ แถมยังห้ามใช้กับสารหล่อลื่นประเภทน้ำมันด้วย ต้องใช้กับสารที่ออกแบบมาให้ใช้กับถุงยางอนามัยเฉพาะ

วิธีนี้ป้องกันได้ 98% แต่มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ เจ้าถุงยางอนามัยนี้อาจฉีดขาดหรือหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้

ถ้าเกิดหลุดหรือฉีกขาดก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะทางแก้ยังมีนั้นคือ ต้องรีบรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่ทำจากยางลาเท็กซ์ใช้สวมคลุมอวัยวะเพศชายในระหว่างร่วมเพศ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้ออสุจิของฝ่ายชายเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงผู้ที่เหมาะในการใช้ถุงยางอนามัย ได้แก่
  1. ผู้ที่อยู่ในระยะหลังคลอดใหม่ ๆ หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
  2. ผู้ที่ยังหาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมไม่ได้ หรือ ไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์
  3. ฝ่ายหญิงเป็นโรคที่เป็นข้อห้ามในการคุมกำเนิดวิธีอื่น
  4. ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์
  5. ใช้ร่วมกับการนับระยะปลอดภัย
  6. เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับวัยรุ่น

ข้อดีของการใช้ถุงยางอนามัย

  1. ปลอดภัย ราคาถูก หาได้ง่าย พกพาสะดวก ใช้ได้เองโดยไม่ต้องปรึกษาแพทย์
  2. ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  3. มีประสิทธิภาพสูงถ้าใช้อย่างสม่ำเสมอ และใช้อย่างถูกวิธี
  4. ช่วยยืดเวลาการหลั่งน้ำอสุจิของฝ่ายชาย
  5. ไม่มีผลต่อการเจริญพันธ์เมื่อหยุดใช้

ข้อเสียของการใช้ถุงยางอนามัย

  1. มีควรมล้มเหลวสูงจากผู้ที่ใช้ไม่ถูกวิธี
  2. ขัดจังหวะในการมีเพศสัมพันธ์ และลดความรู้สึกสัมผัสของทั้งสองฝ่ายขณะร่วมเพศ
  3. ทั้งชายและหญิงอาจเกิดการระคายเคืองจากยางลาเท็กซ์หรือสารหล่อลื่น

1 ความคิดเห็น:

  1. ตัวผมเองก็คิดว่าการใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้แล้ว
    ไม่อยากให้ฝ่ายหญิงต้องรับประทานยาคุมกำเนิด

    ปัญหาเรื่องไม่ีมีความพร้อมต่อการมีบุตรนี้มันชั่งเครียดจริงๆ
    ขอบคุณบทความและคำแนะนำดีครับ

    ตอบลบ